ดร.พงศ์ธร ธาราไชย

ประธานกรรมการบริหาร (CEO)

ตลอดปีที่ผ่านมา บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ผ่านการปรับตัวมากมาย และมีหลายเรื่องที่เกิดขึ้นที่เป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง และหากย้อนเวลากลับไปได้เราก็คงจะไม่ทำ ซึ่งเรื่องหนึ่งในตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่เราได้ทำผิดพลาดและไม่ประสบความสำเร็จคือการพยายามหาความสามารถจากบุคคลหรือบริษัทภายนอกมาร่วมทุนด้วย หรือเราไปร่วมลงทุนกับเขา หรือการทำในธุรกิจที่ไม่มีความชำนาญ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ทำให้เราไม่สามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในธุรกิจใหม่ได้สมดังที่ตั้งใจไว้ตอนที่เริ่มทำธุรกิจมาด้วยกัน ในปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ จึงได้ทยอยขายการลงทุนในบริษัทร่วมและบริษัทย่อยที่ไม่มีความสามารถในการทำกำไร และหรือบริษัทฯ ไม่สามารถกำหนดควบคุมทิศทางได้ และจัดโครงสร้างขององค์กรใหม่ไปบางส่วน ทำให้กลุ่มธุรกิจที่ยังเหลืออยู่ จึงแบ่งเป็นสองกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่

กลุ่มธุรกิจการลงทุน (investment platform ) กล่าวคึอ

กลุ่มธุรกิจสนับสนุนโครงการ (Project technical support) ได้แก่

ในส่วนผลการดำเนินงานในปี 2561 นั้น นอกจากบริษัทฯจะประสบปัญหาความไม่สำเร็จในการขยายธุรกิจใหม่แล้ว ในส่วนของการดำเนินธุรกิจเดิมนั้น บริษัทฯ ก็ประสบปัญหาความล่าช้าของโครงการที่อาจเกิดจากสาเหตุที่เหนือการควบคุม และปัญหาการส่งบุคคลกรเข้าในโครงการต่างๆ ให้ตรงตามแผนงาน ทำให้รายได้ไม่เข้าตรงตามแผนที่คาดไว้ ที่สำคัญอย่างยิ่งเมือเกิดการไม่ตรงตามแผนกับโครงการก่อสร้างที่เป็นส่วนใหญ่ในสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ แล้ว ยิ่งทำให้กระทบกับรายได้และกำไรของบริษัทฯ อย่างมาก ซึ่งผลกระทบนี้ ก็ยังคงจะเกิดขึ้นต่อเนื่องในปี 2562 ข้างหน้านี้ ซึ่งบริษัทฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้แต่อย่างใด และได้ปรับแผนงานและแผนกำลังคนเพื่อเร่งให้สถานการณ์กลับมาปกติให้ได้โดยเร็ว

ในส่วนของแผนการพัฒนาที่ได้กล่าวไว้เมื่อต้นปี 2561 ถึงเรื่องการพัฒนานวัตกรรม (PPS innovation) นั้น บริษัทฯได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง sitewalk พัฒนามาเป็น version 2 แล้ว และต่อยอดเข้ากับการบันทึกข้อมูลลงในแบบจริง

เรื่องแผนห้าปีที่จะมีทุนจดทะเบียน สามร้อยล้านบาท และรายได้ถึงหนึ่งพันล้านนนั้น บริษัทฯ ได้ประสบความสำเร็จในการแปลงสภาพ pps-w1 ทำให้ทุนจดทะเบียนหลังการแปลงสภาพ มีทุนจดทะเบียนเป็น 215,999,890.25 บาท และในส่วนนี้บริษัทฯ มีแผนเพิ่มทุนต่อไปจนถึงจุดดังกล่าว เพื่อใช้ในการขยายกิจการในส่วนของ Investment platform และการทำ project co development ต่อไป

ด้านการพัฒนาการทำงานให้มีความเป็นสากลและสามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาตินั้น บริษัทฯ ได้มีการ JV กับ Oneworks และเพิ่มความสามารถในการทำงานที่เป็นสากล และคิดว่าในปี 2562 นี้ บริษัทฯ น่าจะพร้อมรับงานในภูมิภาค AEC จริงๆ ทั้งนี้ ต้องมีการลงทุนเพิ่มกับบุคคลากรอีกจำนวนหนึ่งเพื่อรองรับการขยายงานดังกล่าว

เรื่องการ รีแบรนด์นั้น ปีนี้จะได้เห็น เวปไซด์ใหม่ สื่อการตลาดใหม่เพื่อสอดรับกับความสามารถและขอบเขตการให้บริการของกลุ่มบริษัทที่เปลี่ยนไป

ในความยุ่งยากลำบากของช่วงปีที่ผ่านมา เราก็ยังมีเรื่องน่ายินดีที่เกิดขึ้นกับ PPS เหมือนกัน กล่าวคือบริษัทฯ ยังคงได้รับเกียรติและความไว้วางใจจากหน่วยงานต่างๆ ทำให้ยังคงได้รับรางวัลหลายรางวัลต่อเนื่องกันในปี 2561 อาทิเช่น บริษัทฯ ติดอยู่ใน list ของ Thailand sustainability index ต่อกันเป็นปีที่สี่และได้รับ รางวัล Outstanding award อีกด้วย รวมถึงได้รับรางวัล Best company performance award 2018 จากงาน set award 2018 ทำให้ได้รางวัลนี้ต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ทั้งนี้ต้องขอบคุณหน่วยงานต่างๆที่ให้ความไว้วางใจเสมอมา และบริษัทฯ จะมุ่งทำให้สมดังเกียรติที่ได้รับต่อเนื่องมาหลายปี

ปีนี้เป็นปีแรกของแผน roadmap ความยั่งยืนอันใหม่ของบริษัทฯ เราก็คงจะมีการพัฒนาให้วัฒนธรรมความมีนวตกรรมและความยั่งยืนนั้นเป็นวัฒนธรรมองค์กรของคนในบริษัทฯ เรา รวมถึงขยายสิ่งเหล่านั้นให้กับสังคมและประเทศชาติด้วย เพราะความสามารถในการอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลแบ่งปันนั้นเอง คือรากฐานของความยั่งยืน ( Harmony is the root of sustainability.)

สุดท้ายนี้ผมขอให้ความมั่นใจว่าทีมงาน PPS จะทำงานให้สมดังความเชื่อมั่นที่ท่านลูกค้า ท่านผู้ถือหุ้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ความเชื่อมั่นและกำลังใจกับเราตลอดมาครับ